เพราะวัยทำงานเป็นวัยที่มักอ้างเรื่องของเวลา ทั้งเวลากิน เวลานอน และเวลาในการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลสุขภาพช่องปาก ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ #มอสอชอขอแชร์ วันนี้เราได้รวบรวมโรคเกี่ยวกับช่องปากที่พบบ่อย ๆ ในวัยทำงาน ที่เราต้องหันมาป้องกันก่อนจะเกิดขึ้นกับคุณกัน

โรคฟันผุ
เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลผสมอยู่ และน้ำตาลเหล่านี้สะสมอยู่บนผิวเคลือบฟัน หรือตามซอกฟัน ซึ่งหากทำความสะอาดไม่ดีพอ เชื้อโรคและจุลินทรีย์ในช่องปากก็จะย่อยน้ำตาลจนกลายเป็นกรดกัดกร่อนเนื้อฟัน เปลี่ยนชั้นเคลือบฟันจากสีขาวใสเป็นสีขาวขุ่น สีน้ำตาล และกลายเป็นสีดำ จนกระทั่งลุกลามต่อเนื่องจนฟันเปื่อยยุ่ยเป็นรูชัดเจน อาจมีอาการเสียวฟัน ปวดฟัน หากปล่อยไว้อาการปวดอาจลุกลามกลายเป็นการติดเชื้อ ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิตได้

โรคเหงือกอักเสบ
เกิดจากการแปรงฟันไม่สะอาด มีเชื้อโรคและแบคทีเรียสะสมอยู่ในซอกเหงือกบริเวณคอฟัน ส่งผลให้เหงือกมีลักษณะบวมแดง แปรงฟันแล้วมีเลือดออกง่าย นอกจากนี้การแปรงฟันแรงเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเหงือกอักเสบได้เช่นกัน

โรคปริทันต์ (รำมะนาด)
หนึ่งในโรคที่มีผลมาจากการแปรงฟันไม่สะอาดเช่นกัน จะมากกว่าโรคเหงือกอักเสบตรงที่โรคนี้จะทำลายเนื้อเยื่อกระดูเบ้าฟัน ซึ่งช่วยยึดฟันให้อยู่แน่นโดยไม่โยก ทำให้มีอาการเหงือกบวม มีหนองไหล ฟันโยก นอกจากนี้ยังพบว่าการสูบบุหรี่ก็มีส่วนทำให้เกิดโรคปริทันต์ได้

แผลในปากและรอยโรคที่เสี่ยงต่อมะเร็งช่องปาก
ปกติแผลในช่องปากจะสามารถหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากแผลเหล่านั้นเกิดนานกว่า 2 สัปดาห์ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาทันที เพราะนั่นอาจเป็นรอยโรคที่เสี่ยงต่อโรคมะเร็งช่องปาก ซึ่งเป็นโรคที่ร้ายแรงที่สุดในช่องปากได้ โดยส่วนใหญ่พบในผู้ที่มีประวัติสูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือมีพันธุกรรมจากคนในครอบครัว

หากคุณไม่อยากป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับช่องปากเหล่านี้ ต้องหันกลับมาดูแลสุขภาพช่องปาก เพื่อให้เหงือกและฟันแข็งแรง ใช้งานได้นานไปจนถึงบั้นปลายของชีวิต

ที่มา: คู่มือการดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตัวเอง องค์ความรู้ที่จำเป็นในการส่งเสริมสุขภาพประชากรวัยทำงานที่มีมาตรฐาน สำหรับประชาชน