ใครว่า “ฟัน” ไม่สำคัญ ต้องทำความเข้าใจกันใหม่ว่า “ฟัน” เป็นสมบัติล้ำค่าที่เราควรทะนุถนอมตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ควรมีวันไหนเลยที่เราควรทอดทิ้งฟัน เพราะมันอาจเป็นเรื่องที่สายเกินแก้จนสูญเสียฟันดี ๆ ไป ไม่มีใช้จนถึงวัยชรา
คนมักจะนึกถึงหมอฟันเมื่อยามที่ปวดฟัน ฟันแตก ฟันหัก สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่เราต้องการจากหมอฟันคือเพื่อการรักษาเท่านั้น แต่หากคุณเป็นคนที่รักในร่างกายตัวเอง รักสุขภาพของตัวเอง คุณจะนึกถึงหมอฟันในมุมที่ต่างออกไป เพราะหน้าที่ของหมอฟันไม่ใช่แค่เพียงรอรับการรักษาคุณเท่านั้น แต่การพบหมอฟันช่วยให้คุณได้ตรวจสอบสภาพเหงือกและฟันของคุณเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากับการใช้งาน
มีคำแนะนำให้ทุกคนเข้าพบหมอฟันทุก ๆ 6 เดือน เพราะช่องปากของเราเป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานบ่อย และต้องทำความสะอาดทุกวัน หากทำความสะอาดได้ไม่ดีพอก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหากับเหงือกและฟันได้ ซึ่งข้อดีของการพบหมอฟันทุก 6 เดือนก็คือ
– ให้คุณหมอช่วยตรวจสอบสุขภาพเหงือกและฟันอย่างละเอียด แนะนำจุดที่ต้องทำความสะอาดให้ทั่วถึง เพื่อป้องกันฟันผุ
– ตรวจสอบรอยโรคจากปัญหาสุขภาพฟันเดิม เช่น เคยมีประวัติเคยอุดฟันมา เคยเป็นเหงือกอักเสบ ว่าปัญหานั้นยังคงสร้างความเสียหายให้ช่องปากอยู่หรือไม่
– แนะนำพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก และลดละพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรค ให้เรารู้เท่าทันและเอาใจใส่ต่อสุขภาพฟันอยู่เสมอ
หนึ่งในปัญหาที่ทำให้คนกลัวการพบหมอฟันนั้นคือค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการรักษา เช่น ค่าอุดฟัน ถอนฟัน ทำรากฟันเทียม ซึ่งถ้าหากคุณเป็นคนที่ดูแลตนเองเป็นอย่างดี คุณจะพบว่าการไปพบหมอฟันทุก 6 เดือนเป็นประจำนั้น มีค่าใช้จ่ายในการป้องกันน้อยกว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาเมื่อเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากเสียอีก ใช้สวัสดิการที่มีไปกับการป้องกันดีกว่าใช้รักษา เพื่อเก็บฟันดี ๆ ไว้ใช้จนถึงวัยที่โรยราอย่างมีความสุข
ที่มา: คู่มือการดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตัวเอง องค์ความรู้ที่จำเป็นในการส่งเสริมสุขภาพประชากรวัยทำงานที่มีมาตรฐาน สำหรับบุคลากรสาธารณสุข